ปรากฏว่า บริษัทญี่ปุ่นที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในจีน 60% ตอบว่าแนวโน้มการดำเนินงานในอนาคต "แย่ลง" หรือ "แย่ลงเล็กน้อย" ซึ่งเป็นแนวโน้มขาลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

สภาธุรกิจญี่ปุ่นในจีน เปิดเผยผลสำรวจ "ความรู้สึกต่อสภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ" ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการกับบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 8,000 แห่งที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในจีน โดยมีบริษัท 1,760 แห่งตอบแบบสอบถาม

ผลการสำรวจพบว่า แนวโน้มยอดขาย "เพิ่มขึ้น" หรือ "เพิ่มขึ้นเล็กน้อย" อยู่ที่ 32% ซึ่งดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 12%p แต่บริษัทที่ตอบว่า "แย่ลง" หรือ "แย่ลงเล็กน้อย" อยู่ที่ 44% เกือบครึ่งหนึ่ง

สำหรับขนาดการลงทุนในปีนี้ 40% ตอบว่า "เหมือนกับปีก่อน" และ 45% ตอบว่า "ลดลงจากปีก่อน" หรือ "ไม่ลงทุนในปีนี้" ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม มีความเห็นมากมายว่า "เศรษฐกิจจีนไม่แน่นอน" และยังมีเสียงสะท้อนถึงความยากลำบากที่ "การแข่งขันลดราคาขายรุนแรง ทำให้ความสามารถในการทำกำไรไม่แน่นอน จึงจำเป็นต้องระงับการลงทุน"

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของตลาดจีนในปีนี้ สัดส่วนบริษัทที่ตอบว่า "แย่ลง" หรือ "แย่ลงเล็กน้อย" อยู่ที่ 60% เพิ่มขึ้น 10%p จากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นแนวโน้มขาลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

นอกจากนี้ ยังมีคำขอมากมายให้ "กลับมาใช้ระบบยกเว้นวีซ่าและการเข้าประเทศใหม่" แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเสียงกังวลจากบริษัทญี่ปุ่นเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการจารกรรม ที่ "ขอให้ชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน"

นอกจากนี้ หลังจากเหตุการณ์พ่อแม่ลูกชาวญี่ปุ่นถูกทำร้ายในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังมีคำขอใหม่จากชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจีนให้ "เพิ่มมาตรการเพื่อความปลอดภัย"