
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
เปิดเผยเคล็ดลับความนิยมสุดขีดของ 2024 ปริอุส เจเนอเรชั่นที่ 5!
- ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
- •
-
ประเทศอ้างอิง: ประเทศญี่ปุ่น
- •
- ชีวิต
เลือกภาษา
ตลาดรถยนต์ได้มีรถยนต์ไฮบริดเฉพาะรุ่นเปิดตัวมาแล้ว 25 ปี โตโยต้าได้ผลิต Prius (พรีอัส) รุ่นแรกของโลกในปี 1997 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและตัวแทนของรถยนต์ไฮบริด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ Prius (พรีอัส) ได้เริ่มสูญเสียความนิยมไปเรื่อยๆ เนื่องจากถูกแซงหน้าด้วยรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ เนื่องจากเทคโนโลยีไฮบริดเริ่มแพร่หลาย ทำให้จุดเด่นเฉพาะตัวของ Prius (พรีอัส) ลดลง
แต่ในเดือนมกราคม 2023 Prius (พรีอัส) ได้รับความสนใจอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ เจเนอเรชั่นที่ 5 ไม่เพียงแต่ยอดขายจะพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่ๆ และครองใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อีกด้วย ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหตุผลอะไรที่ทำให้เป็นเช่นนั้น? มาหาคำตอบกันทีละขั้นตอน
ประการแรกคือการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบ Prius (พรีอัส) เจเนอเรชั่นที่ 5 ใหม่นี้ มีดีไซน์ที่สปอร์ตและหรูหราที่สุดในบรรดา Prius (พรีอัส) ทุกรุ่นที่ผ่านมา มีความสูงลดลง 40 มม. และความกว้างเพิ่มขึ้น 20 มม. จึงมีรูปลักษณ์ที่ดูเตี้ยและเพรียวบาง ออกแบบให้แตกต่างจากรถยนต์ไฮบริดแบบกล่องทั่วไป ด้วยรูปทรง 5 ประตูแบบคูเป้ ไฟหน้าแบบค้อน (Hammerhead Lamp) ด้านหน้าโดดเด่นไม่เหมือนใคร เส้นสายข้างตัวถังที่ดูราวกับคลื่นและไฟท้ายด้านหลังที่ดูเฉียบคม ล้วนแต่ดึงดูดสายตาผู้พบเห็น
ประการที่สองคือสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ไม่ใช่แค่ดีไซน์เท่านั้นที่ได้รับการปรับปรุง สมรรถนะของเครื่องยนต์ก็ได้รับการอัปเกรดอย่างมากเช่นกัน ระบบไฮบริด 2.0 ลิตร ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรขนาดเดียวกับรถยนต์ขนาดกลาง มีกำลังสูงสุดถึง 196 แรงม้า ซึ่งสูงกว่ารุ่น 1.8 ลิตรรุ่นก่อนหน้าถึง 40% (140 แรงม้า) ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการเร่งความเร็ว ความเร็วสูงสุด ความเงียบ และความมั่นคงในการควบคุม สมรรถนะการขับขี่ทุกด้านได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น
นอกจากนี้ยังมีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถขับขี่ได้เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 87 กม. และมีกำลังสูงสุดถึง 223 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซินจะทำงานเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น จึงประหยัดน้ำมันและเงียบมาก
ประการที่สามคือราคาที่สมเหตุสมผล รุ่นไฮบริด 2.0 ลิตรมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับคุณค่าของการตกแต่งภายในระดับพรีเมียมที่ติดตั้งใหม่และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัยต่างๆ จึงเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับการซื้อ
โดยเฉพาะรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ที่โดดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่า เมื่อใช้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล รุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะมีราคาถูกกว่ารุ่นไฮบริดทั่วไปประมาณ 200,000 บาท จึงถือว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะการขับขี่ที่สูงเมื่อเทียบกับราคา
ประการที่สี่คือความสะดวกในการใช้งาน รุ่นไฮบริด 2.0 ลิตรสามารถซื้อได้โดยตรงโดยไม่ต้องกังวล ส่วนรุ่น 1.8 ลิตรที่ราคาไม่แพงสามารถเช่าระยะยาวผ่านบริการรถยนต์เช่า 'Kinto' (กินโตะ) ได้ และยังสามารถอัพเกรดอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้ผู้ใช้ได้รับบริการที่ตรงตามความต้องการของตนเอง
ดังนั้น Prius (พรีอัส) เจเนอเรชั่นที่ 5 จึงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ และราคา นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมวิธีการซื้อ/เช่าที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า Prius (พรีอัส) ที่แตกต่างจากรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ได้ทำลายกรอบความคิดแบบเดิมๆ ที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมัน และสามารถครองใจผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ได้ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม