
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
ฮอนด้าก้าวล้ำไปอีกขั้นกับระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3: กลยุทธ์ผู้นำโลกด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ละสายตาได้
- ภาษาที่เขียน: ภาษาญี่ปุ่น
- •
-
ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศ
- •
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
เลือกภาษา
จากทางด่วนสู่ถนนทั่วไป และสู่ทั่วโลก: การปฏิวัติการขับขี่อัตโนมัติของฮอนด้า
วันที่ 9 กันยายน ฮอนด้าได้ประกาศเป้าหมายในการนำระบบขับขี่อัตโนมัติ "ไอบส์ออฟ" (Eyes-off) ซึ่งเป็นระบบที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ละสายตาจากด้านหน้าได้ในทุกสถานการณ์บนทางด่วนและถนนทั่วไป เป็นรายแรกของโลก โดยมีแผนที่จะเริ่มติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงปลายยุค 2020 เริ่มจากการใช้งานในช่วงรถติดบนทางด่วนก่อน แล้วค่อยขยายไปยังถนนทั่วไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 "ไอบส์ออฟ": ยกระดับอิสระภาพและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่
"ไอบส์ออฟ" เป็นระบบการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 แม้ว่าผู้ขับขี่จะต้องนั่งอยู่ในรถ แต่ระบบจะควบคุมการขับขี่ ผู้ขับขี่จึงสามารถละสายตาจากด้านหน้าและทำกิจกรรมอื่นๆ ในรถได้อย่างอิสระ เช่น ดูวิดีโอหรืออ่านหนังสือ ฮอนด้ามีแผนที่จะติดตั้งระบบไอบส์ออฟในรถยนต์ไฟฟ้าซีรี่ส์ "Honda 0 (ซีโร่)" ที่จะวางจำหน่ายในปี 2026 เพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าและมุ่งสู่การขยายฐานลูกค้า
เทคโนโลยี AI เฉพาะของฮอนด้า: การผสานรวมภูมิปัญญาของผู้ขับขี่มืออาชีพและเทคโนโลยีล่าสุด
ฮอนด้าใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาขึ้นเอง โดยผสานแบบจำลองพฤติกรรมของผู้ขับขี่มืออาชีพที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกับเทคโนโลยีของบริษัทสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถสร้างระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงได้ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่อัตโนมัติที่ปลอดภัยและราบรื่นแม้ในสภาพการจราจรที่ซับซ้อน
การท้าทายเทสลาและผู้ผลิตรถยนต์จีน: การใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติเพื่อก้าวขึ้นมา
ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เทสลาของสหรัฐอเมริกาและผู้ผลิตรถยนต์จากจีนกำลังครองตลาดอยู่ แต่ฮอนด้าจะใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงเป็นอาวุธในการก้าวขึ้นมา ระบบไอบส์ออฟเป็นนวัตกรรมสำคัญในด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้าและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน
การพัฒนาต่อยอด Honda SENSING Elite: การใช้ประสบการณ์จากการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3
ฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์ "เลเจนด์" ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 ในปี 2021 และได้ผลักดันการพัฒนาและการนำเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติมาใช้ผ่าน Honda SENSING Elite ระบบไอบส์ออฟพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์ที่สั่งสมมาจาก Honda SENSING Elite จึงมีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น
การขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 และระดับ 5: การพัฒนาเทคโนโลยีที่มองไปสู่อนาคต
ฮอนด้าไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การนำระบบไอบส์ออฟมาใช้ แต่ยังมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 และระดับ 5 ซึ่งเป็นการขับขี่อัตโนมัติแบบสมบูรณ์ ในระดับ 4 ระบบจะควบคุมการขับขี่ทั้งหมดภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ และผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วม ส่วนในระดับ 5 ระบบจะควบคุมการขับขี่ในทุกสถานการณ์และไม่จำเป็นต้องมีผู้ขับขี่
ความท้าทายของฮอนด้า: การเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
ฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่จะสร้างสังคมไร้อุบัติเหตุทางรถยนต์ผ่านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ การขับขี่อัตโนมัติไม่เพียงแต่จะช่วยลดภาระของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังคาดว่าจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ฮอนด้าจะมุ่งมั่นพัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เช่น ระบบไอบส์ออฟ เพื่อสร้างสังคมการคมนาคมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
อนาคตของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ: ความร่วมมือกับสังคมเป็นสิ่งจำเป็น
เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติมาใช้จำเป็นต้องเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค กฎระเบียบ และการยอมรับจากสังคม
มุ่งสู่การสร้างสังคมการคมนาคมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ฮอนด้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกในการพัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับสังคมและเพิ่มความเข้าใจในเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อมุ่งสู่การสร้างสังคมการคมนาคมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ความคาดหวังต่อเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของฮอนด้า
การประกาศของฮอนด้าเกี่ยวกับการนำระบบไอบส์ออฟมาใช้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ คาดว่าฮอนด้าจะใช้ความสามารถและประสบการณ์ในการพัฒนาที่สั่งสมมาเพื่อเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติและสร้างสังคมการคมนาคมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น