นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
การฟื้นคืนชีพของแบรนด์ MG และการเปิดตัวรุ่นไฮบริดรุ่นที่ 3 ใหม่
- ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
- •
- ประเทศอ้างอิง: ประเทศญี่ปุ่น
- •
- อื่นๆ
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- MG ได้เปิดตัวรุ่นที่ 3 ใหม่ โดยนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้และพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ จากภาพลักษณ์ของแบรนด์ราคาถูกในอดีต MG ได้เปิดตัว MG 3 รุ่นใหม่ในญี่ปุ่นด้วยราคาที่แข่งขันได้
- MG 3 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่แพลตฟอร์มและติดตั้งระบบไฮบริดอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และการออกแบบที่ทันสมัย
- MG ตั้งเป้าที่จะขายได้ 10,000 คันต่อปีด้วยราคาที่ไม่แพงพร้อมกับการรับประกัน 7 ปี เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด
MG เคยเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์รถยนต์ราคาประหยัดของอังกฤษ แต่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้วยการเปิดตัวรุ่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุด MG 3 รุ่นใหม่นี้เปิดตัวในญี่ปุ่นในราคาที่แข่งขันได้
MG มีลูกค้ากว่า 4,000 คนในญี่ปุ่นที่ซื้อ MG 3 รุ่นเก่าในปีที่ผ่านมา MG 3 รุ่นเก่า เปิดตัวเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มีเครื่องยนต์เบนซินที่ค่อนข้างหยาบและสมรรถนะการขับขี่ไม่เรียบหรู แต่เป็นรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้ได้รับความนิยม ไม่น้อย การรับประกันฟรี 7 ปีก็เป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดใจ
MG จึงได้เปิดตัวรุ่นที่ 3 ใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ MG 3 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบใหม่ ตั้งแต่แพลตฟอร์มไปจนถึงการติดตั้งระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ไฮบริดแบบไมลด์ มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ในห้องโดยสาร และการออกแบบเปลี่ยนเป็นสไตล์โมเดิร์น
MG อธิบายว่ารุ่นที่ 3 ใหม่นี้เป็นการอัปเกรดไปอีกระดับ ราคาของรถยนต์ก็ปรับขึ้นเช่นกัน จาก 2.69 ล้านเยนเป็น 3.46 ล้านเยน แต่ยังคงราคาต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Renault Clio หรือ Toyota Yaris
ในสหราชอาณาจักร คาดว่า MG จะสามารถแทนที่ Ford Fiesta ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คยอดนิยมราคาประหยัด ที่หยุดการผลิตไปแล้ว MG ตั้งเป้าหมายขายรถยนต์ 10,000 คันต่อปี โดยใช้ราคาที่ถูกเป็นอาวุธเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
MG มีสตูดิโอออกแบบอยู่ในลอนดอน และรถยนต์รุ่นยุโรปเสร็จสมบูรณ์ที่ศูนย์เทคโนโลยีในเบอร์มิงแฮม หลังจากที่ข้อจำกัดการเดินทาง จาก COVID-19 ผ่อนคลายลง ทีมวิศวกรชาวจีนก็เข้าร่วมพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ในสหราชอาณาจักร